นายกสภาทนายความ ได้เดินทางไปร่วมฟังสวดพระอภิธรรม ทนายแสง ตามจิตเจริญ (ทนายความอาสา สภาทนายความ)

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เวลา 18.00 น. วัดราษฎร์บำรุง ถนนเพชรเกษม 69 เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และเพื่อนทนายความ ได้เดินทางไปร่วมฟังสวดพระอภิธรรม ทนายแสง ตามจิตเจริญ (ทนายความอาสา สภาทนายความ) และนอกจากนี้ยังมีเพื่อนสมัยเรียนชั้นประถม ที่โรงเรียนสว่างวิทยา ได้เดินทางมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรม หลายท่านเช่นกัน ขอบคุณ ท่านนายกสภาทนายความ ดร.วิเชียร ชุบไธสง คุณปรีชา คุณสมชาย คุณยงยุทธ คุณพรชัย และเพื่อนศิษย์เก่าโรงเรียนสว่างวิทยา ขอบคุณครอบครัวภู่มาลี และเพื่อนพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ ทุกท่าน

ประวัติย่อและคำสดุเกียรติคุณ

ทนายแสง ตามจิตเจริญ เป็นบุตร คนที่ 4 ของนายหลิ้มเซี้ย แซ่ตั้ง และนางจู แซ่นิ่ม เกิดที่ กรุงเทพมหานคร ประวัติการศึกษา

ท่านสำเร็จการศึกษา ดังนี้

ระดับประถม ที่โรงเรียน สว่างวิทยา เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย

ระดับ ปวช. ที่โรงเรียนจรัลพาณิชยการ จรัญสนิทวงศ์

ระดับอุดมศึกษา ปริญญาตรี คณะ นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ประกอบอาชีพ ทนายความ ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนาย ทนายขอแรงของศาลอาญาในเขตกรุงเทพหลายแห่ง ทนายที่ปรึกษาองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนวิทยุทีวีเสรี และอีกหลายแห่ง

สถานภาพสมรส

ต่อมา ทนายแสง ตามจิตเจริญ และนางสาว รัตนา ได้สมรส กันที่ กรุงเทพมหานคร มีบุตรธิดา ดังนี้

1. นางสาวชนาภา คามจิตเจริญ เจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ ธนาคารไทยพาณิชย์

2. นายชานนท ตามจิตเจริญ เจ้าหน้าที่ภูมิปัญญา สภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร

อุปนิสัย

ท่านเป็นคนสุภาพอ่อนโยน โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้อื่นมีความเมตตาห่วงใยคนรอบข้างเสมอ จนเป็นที่รักและเคารพนับถือของลูกหลานญาติพี่น้อง และบุคคลที่ได้รู้จักท่าน ในด้านศาสนาเป็นผู้มีศรัทธาเสื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้ให้การอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสานอยู่เนมองนิตย์ ในด้านครอบครัวท่านได้ปฎิบัติหน้าที่ในฐานะผู้นำของครอบครัวอย่างดียิ่ง เป็นคู่ชีวิตที่ดี ให้ความหว่งใยบุตรธิดาทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้ครอบครัวมึความอบอุ่นเป็นครอบครัวที่มีความสุขอย่างยิ่ง อีกทั้งยังส่งเสริมให้ บุตร ธิดา ได้รับการศึกษาอย่างเต็มกำลังความสามารถ จึงทำให้ประสบผลสำเร็จในอาชีพและหน้าทีการงานเป็นอบ่างดี ตามที่ปรากฎในเวลานี้

สาเหตุของการเสียชีวิต

ทนายแสง ท่านได้ล้มป่วยด้วยโรค ความดันดลหิตสูง และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ราชพิพัฒน์ แม้จะได้รับการดูแลจาก คณะแพทย์และพยาบาลเป็นอย่างดีก็เหลือวิสัย และสุดท้ายท่านถึงแก่กรรมด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และจากไปอย่างสงบ

รวมสิริอายุ ได้ 65 ปี

ขออันเชิญดวงวิญญาณขึ้นผ่านฟ้า

ขออันเชิญเทวดาทุกแห่งหน

รับวิญญาณของท่านไว้เบื้องบน

บุญกุศลที่ท่านสร้างไว้

เชิญไว้บนปรางค์มาศปราสาทสวรรค์

เกษมสันต์สิ้นทุกข์สุขสดใส

เสวยสุขอิ่มเอมเปรมฤทัย

จวบสุดท้ายสู่สถานนิพพานเทอญ

ขอแสดงความอาลัยอย่างยิ่ง

สำนักข่าว เออีซีไทยนิวส์

สำนักข่าวไทม์ทูเดย์นิวส์