AEC THAI NEWS

วันนี้ (๒๙ เม.ย.๖๖) ที่เวทีปราศรัยพรรคเพื่อไทย อ.อุทุมพรพิสัย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีต รมช.กระทรวงพาณิชย์ฯ และผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้เป็นตัวแทน หน.พรรคเพื่อไทย รับหนังสือแสดงเจตจำนงจากผู้ทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียง จ.ศรีสะเกษ โดยมี นางดวงพร พรหมมา ตัวแทนสื่อวิทยุกระจายเสียง จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางพัทธนันท์ ศิลาชัย นายมานิตย์ จันทกร นายไหม ยืนยง เข้าร่วมยื่นด้วย นางดวงพร กล่าวว่า ขอขอบคุณและสนับสนุนการแก้กฎหมาย พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ที่พรรคเพื่อไทยมอบให้ อดีต ส.ส. คมเดช ไชยศิวามงคล และคณะ เป็นผู้เสนอเข้าสภาไปแล้ว และขอให้พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคเดียวที่เห็นความสำคัญของวิทยุ ยื่นร่างแก้ไขกฎหมายให้กับผู้ทดลองออกอากาศทั่วประเทศ ได้ดำเนินการให้สำเร็จและทันเวลา ก่อนที่ กสทช.จะยึดคืนคลื่นความถี่เพื่อนำไปประมูล โดยเห็นด้วยที่กำหนดให้มีวิทยุขึ้นมาอีก ๑ ประเภท คือ"วิทยุภาคประชาชน" ซี่งจากเดิมวิทยุ มี ๓ ประเภท คือ ประเภทสาธารณะ ประเภทชุมชน และประเภทธุรกิจ สำหรับวิทยุภาคประชาชนที่กำหนดขึ้นมาใหม่นี้ จะนำเอาสถานีวิทยุ ที่เป็นผู้ทดลองออกอากาศที่กำลังส่ง

ส.ป.ก. จัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2567 - 2571) วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน 2566 เวลา 08.30 น. ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2567 - 2571) พร้อมด้วย นายวุฒิพงศ์ เนียมหอม รองเลขาธิการ ส.ป.ก. ผู้อำนวยการสำนัก/กอง/ศูนย์ ผู้เชี่ยวชาญ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมโครงการ ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ ส.ป.ก. ถนนราชดำเนินนอก แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ จัดทำแผนปฏิบัติการ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2567 - 2571) ของ ส.ป.ก. ให้มีความเป็นระบบ และทันสมัย ใช้เป็นแนวทางการขับเคลื่อนงานให้เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ที่รับผิดชอบโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สามารถนำแผนไปสู่การปฏิบัติ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ส่วนกลาง จำนวน 36 ราย ส.ป.ก. จังหวัด จำนวน 32 ราย รวมทั้งสิ้น 68

ส.ป.ก. ประชุมทางไกลออนไลน์ (Web Conference) ครั้งที่ 1/2566 สรุปวาระสำคัญดังนี้ 1. สรุปผลการประชุมเจรจาความร่วมมือด้านการพัฒนาระบบโซลาร์เซลล์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 1 เมษายน 2566 ความร่วมมือ 3 ประเด็น 1.1 พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) GIZ Headquarter จะส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ การสร้าง การติดตั้ง การใช้งาน และการบำรุงรักษาโซลาร์เซลล์ขนาดเล็ก 1.2 พลังงานชีวมวล (Biomass Energy) GIZ Thailand ขอเชิญผู้แทน ส.ป.ก. จำนวน 2 ราย เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและหารือสาเหตุและแนวทางในการแก้ไขการเผาในพื้นที่เกษตร 1.3 คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน เสนอกิจกรรมลดหรือกักเก็บปริมาณก๊าซเรือนกระจกในเขตปฏิรูปที่ดิน เช่น การปลูกป่า การปลูกสมุนไพร การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การขายคาร์บอนเครดิต จากการประชุมเจรจาความร่วมมือดังกล่าว เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ ส.ป.ก. จะได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็น โรงอบสมุนไพร ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิ กำกับความชื้นได้ ในด้านของชีวมวล จะช่วยให้ลดการเผา ซึ่งเห