วันไตโลก จัด “World Kidney Day ถ้ารักไต อย่าให้ไตวาย” สร้างความเข้าใจการใช้ยา ลดเสี่ยงโรคไต
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มี.ค. 2568 ที่โรงแรมทริปเปิ้ล วาย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานแถลงข่าว “World Kidney Day ถ้ารักไต อย่าให้ไตวาย” ภายใต้โครงการการสื่อสารเรื่องการใช้ยาเพื่อลดความเสี่ยงโรคไต เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการใช้ยาและส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ยาที่ถูกต้อง
ดร.วรรษยุต กล่าวต่อว่า 2. รุ่นอายุ 28-43 ปีหรือเจเนอเรชันวาย กลุ่มผู้ใช้แรงงานเริ่มมีโรคประจำตัว เช่น อาการปวดกล้ามเนื้อ ทำให้ใช้ยากลุ่ม NSAIDs เป็นประจำ และใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสมุนไพรตามคำแนะนำจากคนใกล้ชิด กลุ่มพนักงานออฟฟิศมีการดูแลสุขภาพมากขึ้น ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยการปรึกษาแพทย์ ด้านทัศนคติเกี่ยวกับสุขภาพ ทั้งสองกลุ่มมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการใช้ยาและสมุนไพรที่มีผลต่อไต แต่ยังใช้ยาและอาหารเสริมตามคำแนะนำจากแพทย์หรือหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ส่วนการเปิดรับสื่อกลุ่มนี้นิยมสื่อออนไลน์ เช่น TikTok Facebook โดยเฉพาะวิดีโอสั้นจากบุคลากรทางการแพทย์ หรืออินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพ
“3. รุ่นอายุ 19-27 ปี หรือเจเนอเรชันแซด กลุ่มผู้ใช้แรงงานยังไม่ค่อยมีโรคประจำตัว เน้นการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เกี่ยวกับผิวพรรณและรูปร่าง โดยได้รับข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตหรือคำแนะนำจากเพื่อน กลุ่มพนักงานออฟฟิศคล้ายกับกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ในเรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่จะไปพบแพทย์เมื่อมีอาการหนักขึ้นด้านทัศนคติเกี่ยวกับสุขภาพ ครอบครัวและคนใกล้ชิดมีผลต่อการตัดสินใจ โดยกลุ่มนี้มีความระมัดระวังในการใช้ยากลุ่ม NSAIDs ส่วนการเปิดรับสื่อจะเน้นการรับสื่อออนไลน์ เช่น TikTokโดยเชื่อถือข้อมูลจากแพทย์หรืออินฟลูเอนเซอร์ที่มีความน่าเชื่อถือในการให้ข้อมูลด้านสุขภาพจากข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าการสร้างการตระหนักรู้พร้อมกับการส่งเสริมความรู้ ให้เข้าถึงกลุ่มคนทุกรุ่นเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมสุขภาวะคนในประเทศให้มีสุขภาพที่ดี และลดค่าใช้จ่ายของประเทศ หากประชาชนทั่วไปต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ยาที่ถูกต้องสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สายด่วน 1556” ดร.วรรษยุต กล่าว
ผศ. ดร.ธีรดา จงกลรัตนาภรณ์ หัวหน้าภาคประชาสัมพันธ์ คณะนิเทศศาสตร์และหัวหน้าโครงการ เสริมจากผลวิจัยต่อว่า.. 2. รุ่นอายุ 28-43 ปี หรือเจเนอเรชันวาย กลุ่มผู้ใช้แรงงานเริ่มมีโรคประจำตัว เช่น อาการปวดกล้ามเนื้อ ทำให้ใช้ยากลุ่ม NSAIDs เป็นประจำ และใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสมุนไพรตามคำแนะนำจากคนใกล้ชิด กลุ่มพนักงานออฟฟิศมีการดูแลสุขภาพมากขึ้น ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยการปรึกษาแพทย์ ด้านทัศนคติเกี่ยวกับสุขภาพ ทั้งสองกลุ่มมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการใช้ยาและสมุนไพรที่มีผลต่อไต แต่ยังใช้ยาและอาหารเสริมตามคำแนะนำจากแพทย์หรือหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ส่วนการเปิดรับสื่อกลุ่มนี้นิยมสื่อออนไลน์ เช่น TikTok Facebook โดยเฉพาะวิดีโอสั้นจากบุคลากรทางการแพทย์ หรืออินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพ
นอกจากนี้ ผศ. ภญ. ดร.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) ยังได้ร่วมแบ่งบันความรู้เกี่ยวกับ สถานการณ์ปัจจุบันของภาวะผู้ป่วยโรคไต และสาเหตุหลักของโรคไตในปัจจุบัน รวมถึง ผลกระทบของการใช้ยาโดยไม่ปรึกษาเภสัชกร พร้อมทั้งแนะนำแนวทางการจ่ายยาให้ปลอดภัยต่อไต ทั้งนี้ยังมีการแบ่งบันประสบการณ์ตรงจากคุณคริสโตเฟอร์ ไรท์ ครูสอนภาษาอังกฤษรายการ Click ช่อง Mahidol Channel นักพูด และวิทยากรชื่อดัง ได้เล่าประสบการณ์ตรงจากใจผู้บริโภคและคุณพ่อที่ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้ยาให้กับลูกชายที่มีปัญหาจากโรคไต
ในด้านการสื่อสารซึ่งสำคัญอย่างมากในการทำให้ประชาชนเข้าใจในการใช้ยาอย่างถูกต้องหน่วยงานต่างๆ จึงได้พยายามส่งเสริม และสร้างการตระหนักรู้พร้อมทั้งความเข้าใจ เกี่ยวปัญหาสุขภาวะ เรื่องของโรคไตที่อาจเกิดจากการใช้ยาอย่างไม่ถูกต้อง
ตณาโชค ตามจิตเจริญ/ข่าว/เออีซีไทยนิวส์/รายงาน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น