กรมศุลกากรขานรับนโยบาย “Quick Big Win” รัฐบาล ลุยใน 3 มิติ สกัดกั้นยาเสพติด-สิ่งผิดกฎหมาย เห็นผลใน 4 เดือน.

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการแถลงนโยบายขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (Quick Big Win in Anti-Drug Trafficking) ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ยืนยันจะไม่ผ่อนปรนต่อผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกกรณี


พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด มุ่งผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในระยะสั้นตามนโยบาย “Quick Big Win” โดยเชื่อมั่นว่าความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และหน่วยงานต่างประเทศ จะทำให้ประเทศไทยปลอดภัยจากยาเสพติดและป้องกันมิให้ประเทศถูกใช้เป็นฐานก่ออาชญากรรม

ด้านนายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดหลายช่องทาง และประเทศไทยยังเป็นเส้นทางลำเลียงของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ กรมศุลกากรจึงพัฒนาแนวทางป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบยาเสพติดผ่านมาตรการเชิงรุก ตอบสนองต่อนโยบาย “Quick Big Win” โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 3 มิติ ได้แก่


มิติที่ 1 : ความร่วมมือเชิงรุกกับผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทาน ปรับแนวทางตรวจสินค้าความเสี่ยงสูง ร่วมกับผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อย รวมถึงภาคธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ เช่น DHL, FedEx, UPS, ไปรษณีย์ไทย และบริษัท Freight Forwarder ต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความเสี่ยงและสกัดกั้นสินค้าต้องสงสัยตั้งแต่ต้นทาง

มิติที่ 2 : ความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างประเทศ เช่น Australia Border Force (ABF), UK Border Force (UKBF), UNODC, ศุลกากรนิวซีแลนด์ เกาหลี ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา และ DEA, HSI สหรัฐอเมริกา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและปฏิบัติการร่วม (Joint Operation) สกัดขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ

มิติที่ 3 : การสืบสวนขยายผลและดำเนินคดี ไม่จำกัดแค่การยึดยาเสพติดที่จุดผ่านแดน แต่รวบรวมข้อมูลผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ร่วมกับคณะทำงาน Airport Interdiction Task Force (AITF) และ Seaport Interdiction Task Force (SITF) ได้แก่ ป.ป.ส., ตำรวจปราบปรามยาเสพติด, ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองทัพ, ท่าอากาศยานไทย และการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อทำลายเครือข่ายอาชญากรรมยาเสพติดทั้งระบบ





กรมศุลกากรกำหนดกิจกรรมรองรับมาตรการทั้ง 3 มิติ เพื่อให้เห็นผลภายใน 4 เดือน เช่น ปฏิบัติการร่วมกับ ABF เริ่ม 15 พ.ย. 2568, ปฏิบัติการร่วมกับศุลกากรเกาหลีใต้ในปี 2569, ขยายพื้นที่ใช้สุนัขดมกลิ่น (K-9) ครอบคลุมท่าอากาศยานและคลังสินค้าหลัก, และเปิดศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายภาคใต้ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ตในต้นเดือนธันวาคม 2568

ทั้งนี้ การปราบปรามยาเสพติดต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงภาคธุรกิจการขนส่ง เพื่อสกัดกั้นการลักลอบและทำลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ โดยกรมศุลกากรจะพัฒนาศักยภาพ เสริมเครือข่ายความร่วมมือ และประยุกต์เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อปกป้องประเทศจากภัยเหล่านี้

คณาโชค ตามจิตเจริญ/ข่าว//เออีซีไทยนิวส์/






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

*Aifeex (艾菲克斯)* ได้จัดการประชุมสุดยอดปัญญาประดิษฐ์ระดับโลกประจำปี 2025 ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ กรุงเทพมหานคร

รองประธานสภาวัฒธรรมเขตบางรักร่วมงานสถาปนาโรงเรียน “106 ปี สตรีมหาพฤฒาราม” เขตบางรัก

มรภ.จอมบึงโชว์พลังมวยไทยเชิงสุขภาวะ สู่เวทีโลกใน Expo โอซาก้า สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของ Soft Power ไทยในอนาคต